วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Q.1 ท่านหญิงอาอีชะฮฺเกลียดชังท่านอะลีจริงหรือและจุดยืนของบรรดาอิมามที่มีต่อท่านหญิงคืออะไร?

ปุจฉา : เหตุใดพวกท่าน(ชาวอะฮฺลุซซุนนะฮฺ วัลญะมะอะฮฺ) จึงได้ให้ความเคารพนางอาอีชะฮฺ ทั้งๆที่นางนั้นกระทำตนเป็นศัตรูต่อท่านอิมามอะลี ในสงครามอูฐ และเป็นคนหนึ่งที่มีความเกลียดชังต่อท่านอิมามอะลี หัวหน้าของบรรดาผู้ศรัทธาซึ่งเป็นผู้ที่ท่านนบี(ศ็อลฯ) สัญญาไว้ว่าจะเป็นหนึ่งในชาวสวรรค์

วิสัชนา : สิ่งสำคัญที่ยังคงเป็นอุปสรรคแก่การพบสัจธรรมของฝ่ายชีอะฮฺนั้นก็คือ ความศรัทธาในใจที่ถูกคลุกเคล้าไปด้วยอารมณ์โกรธและความเกลียดชัง สิ่งแรกที่ข้าพเจ้าใคร่อยากจะบอกแก่ผู้ถามก็คือว่า ท่านหญิงอาอีชะฮฺ(รอฎิฯ) ไม่เคยแข็งข้อและต่อต้านตัวของท่านอะลี(รอฎิฯ) นี่เป็นเพียงนิยายปรัมปราที่กลุ่มรอฟิเดาะฮฺหัวรุนแรงได้พูดเน้นย้ำเพื่อสร้างความเกลียดชังต่อท่านหญิงอยู่เสมอ ซึ่งชาวรอฟิเดาะฮฺส่วนมากมักจะถือว่ามันคือความจริง อย่างไรก็ตามท่านอิบนฺ ค็อลดูน (นักสังคมศาสตร์ชาวมุสลิม) ได้กล่าวอยู่เสมอว่า "ความเท็จและนิยายลวงโลกจะกลับกลายมาเป็นจริงได้หากมันถูกนำมากล่าวพูดเน้นย้ำอยู่บ่อยครั้งหรือมีการเขียนขึ้นมาอย่างมากมายในตำรา" และนี่คือกรณีตัวอย่างที่ถูกสร้างขึ้นโดยเสริมแต่งให้สมจริงจากการการผนวกเอาสงครามอูฐ ซึ่งเล่ห์กลอันชาญฉลาดเช่นนี้นั้นส่งผลให้พี่น้องชาวซุนนะฮฺเอาวามหลายๆคนที่ได้ไปหลงไปอ่านตำราประวัติศาสตร์ของรอฟิเดาะฮฺก็เริ่มจะยอมรับในข้อสันนิษฐานข้อนี้ และเริ่มมีทัศนะคติที่ไม่ดีต่อท่านหญิง อย่างไรก็ตามรายละเอียดและข้อเท็จจริงของสงครามอูฐอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเสียชีวิตของท่านอุษมานนั้นท่านสามารถอ่านได้จากลิงค์ต่อไปนี้
http://www.sunnahcyber.com/truepath/modules/news/article.php?storyid=36
เมื่อเราได้ทราบถึงข้อเท็จจริงและจุดยืนอันบริสุทธิ์ใจของท่านหญิงอาอีชะฮฺ(รอฎิฯ) ที่มีต่อท่านอะลี(รอฎิฯ)และความเคารพที่ตัวท่านอะลี(รอฎิฯ)มีต่อท่านหญิงแม้หลังสงครามอูฐก็ตาม เราก็ควรจะมาพิจารณาถึงจุดยืนอันนอกคอกที่ฝ่ายรอฟิเดาะฮฺมีต่อท่านหญิง ความเกลียดชังของชาวรอฟิเดาะฮฺที่มีต่อท่านหญิงนั้นแสดงออกมาถึงขนาดปฏิเสธแม้แต่จะตั้งชื่อ “อาอีชะฮฺ” แก่บุตรีของนาง ซึ่งตรงกับสำนวนที่ว่า “เหม็นขี้หน้าจนไม่อยากได้ยินชื่อ” ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ชื่อดังของรอฟิเดาะฮฺ ซึ่งได้ระบุคำฟัตวาจากอุลามะอฺของรอฟิเดาะฮฺที่ว่าอย่าได้นำเอาคำว่า “อาอีชะฮฺ” มาตั้งชื่อแก่บุตรี
ข้อมูลจาก
การกระทำอันนอกคอกจากทางของบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ
อย่างไรก็ตามสัจธรรมและความจริงได้มีหลักฐานที่จะพิสูจน์และหักล้างความเหลวไหลที่ชาวรอฟิเดาะฮฺได้กระทำการลดเกียรติยศของท่านหญิงลง ด้วยการตรวจสอบข้อมูลจากตำราของฝ่ายรอฟิเดาะฮฺเอง และเมื่อเราได้ทำการตรวจสอบจากข้อมูลดังกล่าว เราจะพบอย่างชัดเจนว่า บรรดาอิมามมะอฺซูมีนทั้งหลายนั้น ได้ให้เกียรติและความเคารพอย่างสูงต่อท่านหญิงอาอีชะฮฺ(รอฎิฯ) ด้วยการนำชื่อของท่านหญิงมาตั้งเป็นชื่อบรรดาบุตรีของท่าน ดังหลักฐานที่จะได้นำเสนอต่อไปนี้ซึ่งเป็นหลักฐานที่ประมวลมาจากตำราประวัติศาสตร์ที่เชื่อถือได้ของฝ่ายรอฟิเดาะฮฺเองทั้งสิ้น
1. อาอีชะฮฺ บินมูซา อัลกาซิม : คือบุตรสาวของท่านอิมามมูซา อัลกาซิม ซึ่งเป็นอิมามลำดับที่ 7 ที่ชาวรอฟิเดาะฮฺนับถือ นักวิชาการคนสำคัญของรอฟิเดาะฮฺนามว่า มุฮัมมัด ตะกีย์ อัลตุสตารี(Muhammad Taqi al-Tustari) ได้บันทึกรายชื่อบุตรีของท่านอิมามมูซา อัลกาซิม ไว้ว่า ท่านอิมามมีบุตรี 7 คน ซึ่งมีชื่อดังนี้ 1) ฟะติมะฮฺ อัลกุบรอ 2) ฟาติมะฮฺ อัลซุครอ 3) รุก็อยยะฮฺ 4) รุก็อยยะฮฺ อัลซุครอ 5) อาอีชะฮฺ 6) ซัยนับ 7) คอดีญะฮฺ (จากหนังสือ ตะวาริค อันนะบี วะอัลอาลฺ ในหน้าที่ 125-126) นอกจากนี้ยังมีนักวิชาการผู้มีชื่อเสียงของรอฟิเดาะฮฺคนอื่นๆก็ได้บันทึกชื่อในแบบดังกล่าวอีกเช่น
1.1 ชัยคฺ มุฟีด ในหนังสือ “อัล-อิรชาด” หน้าที่ 303
1.2 อุมดัต อัตฏอลิบ อิบนฺอันบา ในหน้าที่ 266 ตรงฟุ๊ตโน้ต
1.3 อัซซัยยิด นิอฺมาตุลลอฮฺ อัลญะซาอิรีย์ ในหนังสือ อัล อันวาร อันนัวอฺมานียะฮฺ เล่ม 1 หน้า 380
2. อาอีชะฮฺ บินอะลี อัรริฎอ : เป็นบุตรีของท่านอิมามริฎอ อิมามท่านที่ 8 นักนิติศาสตร์คนสำคัญของชาวรอฟิเดาะฮฺนามว่า อิบนฺ อัลค็อซซาบ ได้กล่าวไว้ในหนังสือของเขาที่ชื่อว่า “มะวาลิด อะฮฺลัลบัยตฺ” ไว้ว่า ท่านอิมามอัรริฎอ มีบุตรชาย 5 คนและบุตรสาว 1 คน ซึ่งมีดังนี้ 1) มุฮัมมัด อัลกอนี 2) อัลฮะซัน 3) ญะอฺฟัร 4) อิบรอฮิม 5) อัลฮุซัยนฺ 6) อาอีชะฮฺ (อ้างจากหนังสือ ตะวาริค อันนะบี วะอัลอาลฺ ในหน้าที่ 128)

3. อาอีชะฮฺ บิน อะลี ซัยนุลอาบิดีน : เป็นหนึ่งในบุตรีสุดที่รักของท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (หนังสือ กัชฟุลฆุมมะฮฺ เล่มที่ 2 หน้า 334 ของ อบูอัลฟัตฮฺ อัลอัรบิลีย์ )
4. อาอีชะฮฺ บินญะอฺฟัร อัศศอดิก : คือบุตรีของท่านอิมามญะอฺฟัร อัศศอดิก อิมามท่านที่ 6 (หนังสือ กัชฟุลฆุมมะฮฺ เล่มที่ 2 หน้า 373 ของ อบูอัลฟัตฮฺ อัลอัรบิลีย์)
5. อาอีชะฮฺ บินอะลี อัลฮาดีย์ : เป็นบุตรีของท่านอิมามอะลี อัลฮาดี อิมามลำดับที่ 10 (หนังสือ อัล-อิรชาด หน้าที่ 334 ของ ชัยคฺมุฟีด และหนังสือ กัชฟุลฆุมมะฮฺ เล่มที่ 2 หน้า 334 ของ อบูอัลฟัตฮฺ อัลอัรบิลีย์)
6. อาอีชะฮฺ บินญะอฺฟัร อิบนฺมูซาอัลกาซิม : เป็นหลานสาวของท่านอิมามมูซาอัลกาซิมที่เกิดจากบุตรชายของท่านนามว่า ญะอฺฟัร บินมูซา (หนังสือ อัล-มุจดี หน้าที่ 109 ของอบูอัลฮะซัน อัลอุมารี)

เราได้เห็นมาแล้วว่าบรรดาอิมามต่างๆ ได้ชื่นชมในตัวของท่านหญิงอาอีชะฮฺ(รอฎิฯ) อย่างมาก จนถึงขนาดนำเอาชื่ออันทรงเกียรติเหล่านี้มาตั้งเป็นชื่อบุตรีของตนไม่รู้กี่ชั่วรุ่น ดังนั้นการกระทำของรอฟิเดาะฮฺที่ไม่นำเอาชื่อของท่านหญิงมาตั้งนั้นจึงเป็นการกระทำที่สวนทางกับบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺอย่างเห็นได้ชัด และจากหลักฐานข้างต้นจึงเป็นข้อหักล้างที่มิอาจตอบโต้ได้ต่อทฤษฎีลวงโลกของรอฟิเดาะฮฺที่พร่ำสอนกันว่า ท่านหญิงอาอีชะฮฺเป็นนางเพศยาและเป็นหญิงที่มีความเกลียดชังต่อท่านอะลี ข้อพิสูจน์เหล่านี้เป็นการเพียงพอแล้วที่จะหักล้างความเชื่อดังกล่าว เพราะหากท่านหญิงเป็นดั่งที่รอฟิเดาะฮฺศรัทธากันจริงๆ คงไม่มีอิมามคนใดคิดจะเอาชื่อนี้มาตั้งให้เสื่อมเสียแก่บุตรธิดาของตนเป็นแน่ แต่การที่บรรดาอิมามทั้งหลายได้นำเอาชื่อนี้มาตั้งชื่อบุตรีของตนย่อมบอกได้อย่างชัดเจนว่า ท่านหญิงอาอีชะฮฺ(รอฎิฯ) เป็นหนึ่งในภรรยานบีที่มีความประเสริฐรองจากท่านหญิงคอดีญะฮฺ (รอฎิฯ) และจุดยืนอันงดงามของบรรดาอิมามเหล่านั้นก็ล้วนเป็นรากฐานของอัลกุรอานที่กล่าวไว้ว่า
[33:6]
[33:6]นบีนั้นเป็นผู้ใกล้ชิดกับบรรดาผู้ศรัทธายิ่งกว่าตัวของพวกเขาเอง และบรรดาภริยาของเขา (นบี) คือมารดาแห่งศรัทธาชนและเครือญาติร่วมสายโลหิต บางคนในหมู่พวกเขาใกล้ชิดกับอีกบางคนยิ่งกว่าบรรดาผู้ศรัทธาและบรรดาผู้อพยพในบัญญัติของอัลลอฮ์ เว้น แต่พวกเจ้าจะกระทำความดีแก่สหายสนิทของ พวกเจ้า นั่นได้มีบันทึกไว้แล้วในคัมภีร์

คำถามที่ตกค้างจากนี้ก็คือว่า แล้วความเกลียดชังและการด่าทอของชาวรอฟิเดาะฮฺที่มีต่อท่านหญิงอาอีชะฮฺ(รอฎิฯ) มารดาแห่งผู้ศรัทธานั้นเป็นการกระทำที่มีคำสอนมาจากใคร !!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น